จะกู้คืนไฟล์ที่สูญหายหลังจากอัปเดต Windows 11 ได้อย่างไร?

ผู้คนอัปเกรด Windows 11 เพื่อรับการอัปเดตด้านความปลอดภัยเพื่อปกป้องคอมพิวเตอร์จากการโจมตีที่อันตราย หรือเพียงแค่อยากลองคุณสมบัติใหม่ ในระยะยาว การอัปเตตซอฟต์แวร์คือสิ่งที่มีประโยชน์ ไม่เพียงแค่คุณจะได้ใช้คุณสมบัติใหม่เท่านั้น แต่ยังทำให้ปลอดภัยอีกด้วย การอัปเกรดเป็น Windows 11 จาก Windows 10, Windows 8.1 หรือ Windows 7 มักจะทำได้อย่างราบรื่น ส่วนใหญ่แล้ว Windows จะเรียกคืนเอกสารและข้อมูลกลับมา แต่ในบางกรณีคุณอาจสูญเสียเอกสารไปหลังจากย้ายมาใช้ Windows 11 ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ วิธีการกู้คืนไฟล์หลังจากอัพเดต Windows 11.

วิธีติดตั้ง Windows 11|กู้คืนข้อมูลที่สูญหายหรือฟอร์แมทหลังจากที่อัปเดต Windows 11

ส่วนที่ 1: เหตุผลหลักที่เป็นไปได้สำหรับไฟล์ที่ถูกลบหลังจากที่อัปเดต Windows

เหตุผลที่เอกสารไม่ปรากฏขึ้นมาหรือถูกซ่อนอาจมีได้หลากหลายสาเหตุ แต่ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลไป คุณสามารถกู้คืนไฟล์ที่หายไปหลังจากการอัปเกรด windows 11 ได้ง่ายๆ สาเหตุบางอย่างของข้อมูลที่หายไปหลังการอัปเกรด Windows ได้แก่:

• คุณได้รับการสนับสนุนด้วยบัญชี Windows ชั่วคราว
• บัญชีที่คุณใช้ก่อนการอัปเดตใช้ไม่ได้แล้วในตอนนี้
• เอกสารถูกย้ายไปที่อื่น
• ในระหว่างที่ย้ายไป Windows 11 บันทึกถูกลบออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

ส่วนที่ 2: วิธีกู้คืนไฟล์หลังจากที่อัปเดต Windows ต้องทำอย่างไร?

วิธีที่ 1. ลบบัญชีชั่วคราว

คุณอาจประสบกับความยากลำบากในการติดตามเอกสารเก่าหลังจากที่อัปเกรดเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณเป็น Windows 11 ลองใช้เคล็ดลับเหล่านี้เพื่อเรียกคืนไฟล์หลังจากที่อัปเกรด Windows 11

ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบว่าคุณมีบัญชีสำรองหรือไม่

ขั้นตอนที่ 2: เลือก เริ่ม > การตั้งค่า > บัญชี จากนั้นเลือก ซิงค์การตั้งค่าของคุณ หากคุณเห็นข้อความด้านบนที่เขียนว่า "คุณลงชื่อเข้าใช้ด้วยโปรไฟล์ชั่วคราว ตัวเลือกโรมมิ่งไม่สามารถใช้งานได้" รีสตาร์ทพีซีของคุณแล้วลงชื่อเข้าใช้ใหม่อีกครั้ง การทำเช่นนี้จะทำให้บัญชีหายไป แล้วเอกสารของคุณจะกลับมาเข้าถึงได้อีกครั้ง

ขั้นตอนที่ 3: ซิงค์หน้าการตั้งค่าของคุณ

ขั้นตอนที่ 4: หากการรีสตาร์ทพีซีของคุณแล้วเข้าสู่ระบบอีกครั้งได้ผลแบบเดียวกันโดยขึ้นข้อความ "เราไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ไปยังบัญชีของคุณได้" ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการออกจากระบบแล้วเข้าสู่ระบบในบัญชีของคุณใหม่อีกครั้ง

วิธีที่ 2. หาไฟล์ที่หายไปหลังจากที่อัปเดต Windows โดยใช้การค้นหา

หากคุณไม่ได้เข้าสู่ระบบโดยใช้โปรไฟล์ Windows ชั่วคราว คุณสามารถมองหาไฟล์ที่หายไปได้จากช่องค้นหาที่ทาสก์บาร์ หากต้องการหาบันทึก คุณสามารถค้นหาได้โดยใช้ชื่อเอกสารหรือประเภทไฟล์ ตัวอย่างเช่น หากคุณค้นหาบันทึก Excel ที่หายไป ค้นหาโดยใช้ชื่อเอกสาร (ที่เคยบันทึกไว้ก่อนหน้านี้) หรือ *.xlsx (ลองดูภาพด้านล่าง)

ในช่องค้นหาที่ทาสก์บาร์ ให้พิมพ์ว่า การทำดัชนี แล้วหลังจากนั้นเลือก ตัวเลือกการทำดัชนี เลือกสัญลักษณ์ผู้ดูแลระบบขั้นสูงเพื่อดูตัวเลือกเพิ่มขึ้น จากนั้นเลือกการค้นหาเพื่อแก้ปัญหา แล้วทำดัชนีและทำตามขั้นตอน ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถกู้คืนไฟล์ที่ถูกลบได้หลังจากที่อัปเดต Windows 11

สิ่งอื่นๆ ที่ควรลอง:

• การอัปเดต Windows อาจเก็บเอกสารบางส่วนเอาไว้ไม่ให้มองเห็นได้ ในช่องค้นหาบนทาสก์บาร์ พิมพ์ว่า ตัวเลือกตัวสำรวจไฟล์ จากนั้นให้เลือกแถบมุมมอง ภายใต้บันทึกและโฟลเดอร์ที่ซ่อนอยู่ ให้เลือก แสดงเอกสารที่ซ่อน จากนั้นให้ลองมองหาข้อมูลของคุณอีกครั้ง
• เอกสารของคุณบางส่วนอาจถูกย้ายไปเมื่อคุณติดตั้ง Windows 11 หากต้องการตรวจสอบตำแหน่งเอกสารที่คุณพบ กดค้าง (หรือคลิกขวา) ที่ไฟล์​แล้วเลือก "เปิดตำแหน่งไฟล์" ทำซ้ำบันทึกใดๆ ที่คุณต้องการย้ายไปยังตำแหน่งอื่น

วิธีที่ 3. กู้คืนไฟล์ที่หายไปหลังจากที่อัปเดต Windows โดยมีการสำรองข้อมูลไว้

ไปที่เมนูเริ่มต้น เปิดการตั้งค่า > อัปเดตและความปลอดภัย > การสำรองข้อมูล จากนั้นเลือกการสำรองข้อมูลและการเรียกคืน (Windows 7) เลือก เรียกคืนเอกสารของฉัน แล้วปฏิบัติตามคำสั่งที่พวกเขาให้เพื่อกู้คืนไฟล์หลังจากอัปเดต windows

คุณสามารถดึงเอกสารกลับได้ด้วยการสร้างอีกไฟล์ขึ้นมาด้วยชื่อและประเภทเดียวกันในบางกรณี หลังจากที่คุณสร้างเอกสารใหม่แล้ว:

ขั้นตอนที่ 1: เลือก คุณสมบัติ

ขั้นตอนที่ 2: เลือกแถบเวอร์ชันก่อนหน้า

ขั้นตอนที่ 3: เลือกประเภทเอกสารเพื่อกู้คืน

วิธีที่ 4. เปิดใช้งานบัญชีผู้ดูแลระบบที่สร้างขึ้นมาเพื่ออัปเกรด

หลังจากที่ย้ายมา Windows 11 แล้ว บัญชีผู้ดูแลระบบที่คุณสร้างขึ้นอาจโดนปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ คุณจะไม่มีตัวเลือกในการดูเอกสารที่เก็บไว้ในบัญชีผู้ดูแลระบบที่เสียหาย หากต้องการเรียกคืนไฟล์หลังจากที่อัปเกรด Windows 11 คุณจำเป็นต้องเปิดใช้งานบัญชีนี้ด้วยขั้นตอนดังต่อไปนี้:

ขั้นตอนที่ 1: พิมพ์คำว่า "การจัดการคอมพิวเตอร์" ลงในช่องบนทาสก์บาร์แล้วคลิก เปิด

ขั้นตอนที่ 2: เมื่อหน้าต่าง "การจัดการคอมพิวเตอร์" เปิดขึ้นมา คลิกที่ "ผู้ใช้และกลุ่มโลคอล" ทางด้านซ้ายของแผง

ขั้นตอนที่ 3: ดับเบิลคลิกผู้ใช้ที่อยู่ทางด้านขวาของแผง

ขั้นตอนที่ 4: ดับเบิลคลิกที่ "ผู้ดูแลระบบ" เพื่อเปิดคุณสมบัติ

ขั้นตอนที่ 5: ยกเลิกการติ๊กช่อง "บัญชีถูกปิดใช้งาน" หากมีการติ๊กอยู่แล้ว

ขั้นตอนที่ 6: กดที่ "นำไปใช้" แล้วหลังจากนั้นกด "ตกลง"

ขั้นตอนที่ 7: ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชีผู้ดูแลระบบ จากนั้นลองหาเอกสารที่หายไปของคุณ

วิธีที่ 5. กู้คืนไฟล์หลังจากอัปเดต Windows โดยไม่มีการสำรองข้อมูล (แนะนำอย่างสูง)

ในกรณีที่คุณไม่สามารถหาเอกสารที่หายไป นั่นอาจหมายความว่าบันทึกถูกลบในขณะที่ย้ายไปยัง Windows 11 หากต้องการกู้คืนเอกสารที่ถูกลบ โปรดใช้ซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูล Tenorshare 4DDiG, ที่สามารถช่วยกู้คืนบันทึกที่ถูกลบจากที่ใดก็ได้บนอุปกรณ์ของคุณ หากคุณทำข้อมูลสำคัญหายไปในขณะที่อัปเกรดเป็น Windows 11 ที่นี่ เราจะมาบอกบอกขั้นตอนอย่างละเอียดในการกู้คืนข้อมูลหลังจากที่ติดตั้ง Windows ใหม่

• รองรับ Windows 11/10/8.1/8/7 เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ Mac
• กู้คืนไฟล์จากอุปกรณ์ที่ถอดได้ ได้แก่ ยูเอสบี เอสดีการ์ด อุปกรณ์พกพก ฯลฯ
• กู้คืนไฟล์ 1000+ ประเภทด้วย Tenorshare 4DDiG
• กู้คืนไฟล์ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การลบ, การฟอร์แมท, RAW ฯลฯ พร้อมกับอัตราความสำเร็จที่สูงขึ้น
• กู้คืนข้อมูลจากระบบที่ล่ม
• รองรับการซ่อมแซมรูปภาพและวิดีโอ
• ง่ายและปลอดภัย
• การช่วยเหลือทางเทคนิคฟรี
• ใช้รหัสคูปอง: 4DART30OFF เพื่อรับส่วนลด 30% ตอนนี้เลย

ทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้เพื่อกู้คืนข้อมูลที่หายไปหลังอัปเดต Windows

• ขั้นตอนที่ 1:เลือกโลคอลดิสก์

หลังจากที่ติดตั้งและเปิดตัวช่วยกู้คืนข้อมูล Tenorshare 4DDiG Windows แล้ว คุณจะพบกับอินเทอร์เฟซโฮมด้านล่าง ซึ่งแสดงสิ่งต่างๆ เช่น อุปกรณ์และไดร์ฟและตำแหน่งทั่วไป สำหรับสถานการณ์ของเรา เลือกดิสก์ที่คุณทำข้อมูลหายแล้วคลิก เริ่ม เพื่อดำเนินการต่อ

• ขั้นตอนที่ 2:สแกนฮาร์ดไดร์ฟ

4DDiG จะเช็คฮาร์ดไดร์ฟที่คุณเลือกอย่างรวดเร็วเพื่อหาข้อมูลที่หายไป ซอฟต์แวร์นี้บันทึกสิ่งที่กรองมาตามมุมมองต้นไม้และมุมมอไฟล์ เนื่องจาก 4DDiG ค้นพบเอกสารที่ถูกลบนไดร์ฟ

จากนั้นคุณจะได้พบกับผลลัพธ์ต่างๆ ที่แสดงจำนวนเอกสารที่พบว่าใช่ สุดท้าย หากคุณไม่สามารถติดตามข้อมูลที่หายไปและเป็นสิ่งที่คุณต้องการ คุณสามารถคลิกที่ การสแกนละเอียด ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่า


• ขั้นตอนที่ 3:กู้คืนไฟล์

ซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูล 4DDiG สามารถมองเห็นและกู้คืนประเภททบันทึกต่างๆ เช่น รูปภาพ บันทึก เสียง หรือไฟล์เก็บถาวร คุณสามารถคลิกที่ กู้คืน เพื่อดึงกลับมาที่ฮาร์ดไดร์ฟของคุณได้

หลังจากที่คุณคลิกที่ กู้คืน กล่องข้อความจะเปิดขึ้นมาเพื่อขอให้คุณระบุตำแหน่งที่คุณต้องการเรียกคืนเอกสาร เลือกพื้นที่นั้นแล้วกด ตกลง

ส่วนที่ 3. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการอัปเดต Windows

1. การอัปเดต Windows จะลบไฟล์ของคุณหรือไม่?

การย้ายไป Windows 11 อาจลบข้อมูลต่างๆ เช่น โปรเจค เอกสาร และการตั้งค่าเก่า ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการสำรองข้อมูลไว้ก่อนดำเนินการอัปเดตต่อ

2. การอัปเกรดแล็บท็อปเก่าเป็น Windows 11 คุ้มหรือไม่?

Windows 11 สามารถใช้ได้ในโปรเซสเซอร์เก่าๆ คอร์เดียว ที่มีหน่วยความจำแค่ 1GB เท่านั้น แต่อาจมีความล่าช้า หากพีซีเก่าของคุณมีแรม 4 GB, ฮาร์ดดิสก์ 80 GB และโปรเซสเซอร์สองคอร์ที่ความเร็ว 2 GHz คุณสามารถใช้ Windows 11 ได้ Windows 11 รวดเร็วกว่าและมีความสามารถมากกว่า Windows 7

3. การอัปเดต Windows ไม่ทำงานจะต้องทำอย่างไร?

ในกรณีที่คุณเจอรหัสข้อผิดพลาดในขณะที่ดาวน์โหลดและเปิดใช้งานการอัปเดต Windows ตัวช่วยแก้ไขปัญหาการอัปเดตสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ จากเมนูเริ่มต้น ไปที่การตั้งค่า > การอัปเดตและความปลอดภัย > การแก้ไขปัญหา > ตัวช่วยแก้ไขปัญหาเพิ่มเติม จากนั้นเลือก การอัปเดต Windows แล้วเปิดใช้งาน ตัวช่วยแก้ไขปัญหา

สรุป

หากคุณอัปเดตเฟรมเวิร์กเป็น Windows 11 คุณจะไม่สามารถหาเอกสารบางอย่างบนอุปกรณ์ได้ นั่นอาจเป็นเพราะการอัปเดต Windows 11 มีโอกาสย้ายข้อมูลของคุณไปที่อื่นบนพีซีของคุณ หรือการอัปเดต Windows อาจลบไฟล์ไป บล็อกนี้พูดถึงกลยุทธ์ง่ายๆ ในการกู้คืนไฟล์หลังจากที่อัปเดต Windows ดังนั้นในขณะที่ย้ายไป Windows 11, ซอฟต์แวร์กู้คืนข้อมูล Tenorshare 4DDiG คือทางเลือกในการกู้คืนข้อมูลจากฮาร์ดไดร์ฟ Windows ที่มั่นคงที่สุด